เบาหวานเป็นภาวะที่น้ำตาลในเลือดสูง แบ่งออกเป็นชนิดที่ 1 และแบบที่ 2 ปัจจุบันเบาหวานแบบที่ 2 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะจากอาหารที่กินในชีวิตประจำวันผิด เบาหวานเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ หลอดเลือดแดงแข็งและหลอดเลือดสมองอุดตัน โรคไตวายเรื้อรัง และถ้าเป็นหนักตาถึงบอด ต้องตัดแขนขา
น้ำตาลในเลือดที่สูงเกิน การรักษาในแผนปัจจุบันเน้นจัดการให้น้ำตาลลดลงเป็นปกติ โดยการใช้ยาๆ เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น มีแต่การรักษาตัวเองโดยการใช้อาหารเป็นยาและการออกกำลังกายจึงให้ผลได้ยั่งยืนในระยะยาว ส่วนการใช้ยาและฉีดอินซูลินเพื่อลดน้ำตาลในเลือดระยะยาว อาจได้ของแถมเพิ่ม อาจเสี่ยงเป็นโรคไตวายเรื้อรัง และยังต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยามากขึ้น
ตับอ่อนเป็นหัวใจในการช่วยให้น้ำตาลเข้าสู่เซลล์ จากการที่น้ำตาลในเลือดสูงจึงเป็นภาระหนักแก่ตับอ่อน ตับอ่อนจะค่อยเสื่อมสมรรถนะลงไปเรื่อยๆ การแก้ปัญหาต้องลดภาระให้ตับอ่อนทำงานเบาลง โดยงดอาหารจำพวกน้ำตาล แป้งขาว ผลไม้รสหวานจัด หลังจากนั้นทำการฟื้นฟูตับอ่อนให้กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง โดยใช้อาหารที่มีเอนไซม์เข้าช่วย ล้างพิษตับ ล้างพิษหลอดเลือด เสริมสารอาหารที่ดีให้กับตับอ่อน สมุนไพร ผักผลไม้ เครื่องเทศ อาหารเหล่านี้ล้วนมีผลดีต่อตับอ่อน ทั้งสิ้น
อาหารที่ควรกิน (ช่วยส่งเสริมตับอ่อนและหลอดเลือด)
อาหารที่มีเอนไซม์ - ได้จากผักสด ผลไม้สด ช่วยให้ตับอ่อนลดภาระการทำงานหนัก ร่างกายได้รับประโยชน์จากสารอาหาร
แร่ธาตุ วิตามิน จากผักสดโดยตรง
อาหารที่มีวิตามินซีสูง - ช่วยให้หลอดเลือดลดการอักเสบ และอวัยวะส่วนต่างๆ มีสารต้านทานอนุมูลอิสระ ยังช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย มีอยู่มากในมะขามป้อม ฝรั่ง ส้ม ฯลฯ
อาหารที่มีความเป็นด่าง - มีอยู่มากในผักผลไม้แทบทุกชนิด ช่วยลดความเป็นกรดในเลือดที่ทำให้เกิดพิษต่อเซลล์ สาหร่ายทะเลและมีอยู่ในชาสมุนไพร เช่น เจียวกู่หลาน ใบหม่อน
อาหารที่มีโปแตสเซียมสูง - มีอยู่มากในผักผลไม้ ช่วยลดความเค็ม หรือโซเดียมที่ทำให้เกิดอาการบวมของเซลล์ ต้นเหตุเซลล์ที่เสื่อมลง
กรดไขมันโอเมก้า 3 - มีอยู่ในน้ำมันงาขี้ม้อน น้ำมันปลา ช่วยทำให้ผนังหลอดเลือดยืดหยุ่น ไม่ตับตัน ทำงานตรงกันข้ามกับ โอเมก้า 6
อาหารที่ช่วยเพิ่ม HDL ไขมันตัวดี - HDL ทำหน้าที่เหมือนแม่บ้านคอยเก็บกวาดไขมันส่วนเกิน LDL สารพิษ กลับไปทำลายที่ตับ เปรียบเหมือนสารต้านอนุมูลอิสระในเลือด
- กรดไขมันสายกลาง (น้ำมันมะพร้าว) โดยเฉพาะ C14 (MYRISTIC) ถ้ามีเพิ่มในร่างกาย 1.9% สามารถเพิ่ม LCAT 38%
- กรดไขมันมันสายกลาง C14 (MYRISTIC) เพิ่ม 1.9% + OMEGA 3 (น้ำมันงาขี้ม้อน น้ำมันปลา) 0.9% สามารถเพิ่ม LCAT 152%
LCAT คือ เอนไซม์ที่เพิ่มจำนวน HDL ได้มากขึ้น เท่ากับลดและป้องกันโรคต่างๆ ได้มากขึ้น (ในปัจจุบันยังไม่มีสารอาหารชนิดไหนช่วยเพิ่ม HDL ได้เท่านี้)
อาหารที่เพิ่มวิตามิน บี6,บี9,บี12 จะช่วยลดโฮโมซิสเตอีน สาเหตุภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว
การดื่มน้ำ ให้พอเพียงต่อวัน เพื่อลดการหนืดของเลือด และช่วยกำจัดพิษออกจากเซลล์
น้ำหมักชีวภาพหรือน้ำส้มสายชู มีกรดไขมันสายสั้น ช่วยในการย่อยไขมัน ชะลอความเร็วในการย่อยคาร์โบไฮเดรตในกระเพาะอาหาร เสริมการทำงานของจุลินทรีย์ตัวดี ช่วยเพิ่มการทำงานของเม็ดเลือดดีขึ้น ลดความเร็วของน้ำตาลที่จะเข้าสู่กระแสเลือด
เพิ่มเครื่องเทศเข้าไปในมื้ออาหาร
- กระเทียม ขยายหลอดเลือด กำจัดของเสียและคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในปัสสาวะ ฯลฯ
- ขมิ้นชัน ช่วยขับลมในระบบย่อยอาหาร เพิ่มภูมิต้านทานให้แก่เซลล์ ฯลฯ
- ขิง ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร ลดการอักเสบ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ฯลฯ
- ผงยี่หร่า ลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มประสิทธิภาพอินซูลิน กระตุ้นการทำงานของเบต้าเซลล์
- ผงกานพลู ลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มประสิทธิภาพอินซูลิน และลดค่าคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
- ผงอบเชย สร้างความสมดุลของน้ำตาลในเลือด เพราะไปกระตุ้นเซลล์ไขมันให้ไวต่ออินซูลินเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า
การทำดีท็อกซ์ (DETOX) ช่วยกำจัดของเสียในลำไส้ใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ทำงานดีขึ้น เลือดที่ไหลเวียนทั่วร่างกายนำสารพิษโลหะหนักไปกำจัดทิ้งได้
อาหารที่ควรงดเว้นหรือหลีกเลี่ยง
- ลดเกลือ (โซเดียม) เพราะโซเดียมทำหน้าที่ควบคุมการกระจายตัวของน้ำในส่วนต่างๆ ของร่างกาย และหากมีโซเดียมมากเกินไปจะทำให้เซลล์เกิดการบวมน้ำ หรืออาการบวมของเซลล์ โดยเฉพาะไตจะต้องทำงานหนักมาก ที่จะขับน้ำส่วนเกินออกไป แล้วยังมีโซเดียมแฝง เช่น โมโนโซเดียมกลูตาเมต (ผงชูรส) โซเดียมไบคาบอเนท (ผงฟู) เครื่องปรุงรสแต่งอาหาร ซีอิ๊ว น้ำปลา ฯลฯ ล้วนมีโซเดียมสูง
- ลดน้ำตาล เพราะทำให้เลือดเป็นกรด และเลือดข้น ไปที่ส่วนไหนของร่างกายจะเกิดการอักเสบบวมไต หลอดเลือดอุดตันได้
- การปิ้ง ทอด ย่าง การผ่านความร้อนสูงเกิดอนุมูลอิสระในอาหารทั้งไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต
- แป้งขัดขาวในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ซาลาเปา ปาท่องโก๋ เบเกอรี่ คุกกี้ เค้ก ฯลฯ จะใช้ไขมันไม่ดี เช่น เนยขาว ครีมเทียม เนยเทียม มาการีน สาเหตุของหลอดเลือดอุดตัน ถ้ากินควรเพียงอาทิตย์ละไม่เกิน 2 ครั้ง ๆ ละน้อยๆ
- เนื้อสัตว์ ยกเว้นเนื้อปลา แต่ให้กินได้วันละไม่เกิน 100 กรัม ก็พอ
น้ำมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (โอเมก้า 6) มีอยู่ในน้ำมันทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด ทำให้เกิดความไม่สมดุลของโอเมก้า 3: โอเมก้า 6 เกิดการอักเสบในระดับเซลล์